วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ครอบครัว มีความหมาย แล้วที่คนมาเกิดมาอยู่ร่วมกัน แบบไหนเป็นครอบครัว เลือดไม่ข้นมันไม่แปลก

ละครฮิต อาจทำให้คิดว่าคนต้องเลืิอดข้น 
ข้นขนาดไหนถือว่าเลือดคน ๕๕๕  ความหมายมันคือกลุ่มคนที่ข้นด้วยความผูกพัน ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ุ 

ครอบครัว หมายถึง กลุ่มบุคคลที่มีความผูกพันและใช้ชีวิตร่วมกัน ทำหน้าที่เป็นสถาบันหลัก เป็นแกนกลางของสังคมที่เป็นรากฐานสำคัญยิ่งต่อการดำรงชีวิต ครอบครัวมีหลากหลายรูปแบบและหลายลักษณะ นอกเหนือจากครอบครัวที่ครบถ้วนทั้งบิดา มารดาและบุตร
ในตำราเรียนบางเล่ม กล่าวว่า

สถาบันครอบครัว หมายถึง แบบแผนพฤติกรรมที่คนที่มาติดต่อเกี่ยวข้องกันในเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวและเครือญาติจะต้องปฏิบัติตาม นั่นคือคนที่เป็นญาติกันโดยสายเลือด เช่น เป็นพ่อแม่ พี่น้องกัน เป็นญาติกันทางการแต่งงาน เช่น เป็นสามีภรรยา เป็นเขยสะใภ้กัน หรือการรับไว้เป็นญาติ เช่น เป็นบุตรบุญธรรม เป็นต้น คนเหล่านี้จะต้องปฏิบัติไปตามกฎเกณฑ์แบบแผนที่สังคมเป็นผู้กำหนดขึ้น เรียกว่า สถาบันครอบครัว ซึ่งครอบคลุมแนวทางในการปฏิบัติในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ คือ การเลือกคู่ การหมั้น การแต่งงาน การเลี้ยงดูลูก การอบรมขัดเกลา การหย่าร้าง และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวและเครือญาติทั้งหมด
ครอบครัวเป็นสิ่งที่ดีงาม เป็นแหล่งบ่มเพาะปลูกฝังคุณค่าต่างๆ ของสังคม
ในจำนวนที่มากขึ้นทุกปี มีครอบครัวจำนวนมากที่ไม่ได้ ‘ผูกพัน’หรือ ‘อยากใช้ชีวิตร่วมกัน’
ดังนั้น จึงไม่สามารถเรียกว่าครอบครัว 
ในสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น คนมีนิยาม คำว่า ครอก อาจจะใช้แบบนี้ได้มั๊ง 
จากรูปหมู่ที่ถ่ายร่วมกัน ที่จริงอาจมีนัยยะ ‘อำนาจ’ ซ่อนอยู่ใต้ความสัมพันธ์และกิจกรรมต่างๆ ของครอบครัวและคนในครอบครัว
ในภาวะปกติ เราอาจไม่รู้สึกถึงการทำงานของอำนาจเหล่านี้มากนัก แต่เมื่อถึงคราวคับขันสิ่งที่แต่ละคน แต่ละครอบครัว พยายามทำ ก็คือการ ‘ควบคุม’ กันและกันโดยใช้ฐานอำนาจหลายๆ แบบมาคัดง้างกัน
ที่จริงแล้ว การที่ตำราเรียนบอกว่า สถาบันครอบครัว เป็นแกนกลางของสังคมที่เป็นรากฐานสำคัญยิ่งต่อการดำรงชีวิตในด้านหนึ่งต้องบอกว่าถูกต้อง
เพราะครอบครัวก็คือแบบจำลองของสังคม
อำนาจในครอบครัวคือ ‘ความสามารถ’ ในการบริหารจัดการการควบคุมโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่เป็นกลไกบังคับ
บางคนไม่แสดงถึงอำนาจแต่ใช้ว่าจะไม่รู้ #อะไร ในวังวนนั้นเลย
ความรู้เฉพาะ’ (specific knowledge) ในบางเรื่อง เป็นความรู้ที่คนอื่นๆ ในครอบครัวไม่รู้ คนที่รู้ข้อมูลนี้จะมีอำนาจในการควบคุมบังคับคนอื่น โดยอาจควบคุมบังคับอย่างเปิดเผยก็ได้ หรือจะใช้วิธีชักใยอยู่เบื้องหลังก็ได้เช่นเดียวกัน
เด็กผู้หญิงจากชนเผ่า ในแอฟริกาใต้ แต่งงานอายุราวๆ สิบกว่าขวบ กับผู้ชายที่แก่กว่าเธอมาก การแต่งงานจะเกิดขึ้นโดยพ่อแม่ของเด็กหญิงเป็นคนจัดการ เมื่อแต่งแล้ว เจ้าบ่าวต้องมาอยู่กับครอบครัวเจ้าสาวเพื่อช่วยล่าสัตว์หาอาหาร
การให้ฝ่ายชายมาอยู่ที่บ้านฝ่ายหญิง สิ่งที่เป็นตัวกำหนดสมดุลอำนาจในครอบครัว เป็นพันธมิตรกันระหว่างพ่อแม่ลูกของเด็กหญิง กล่าวคือถ้าเด็กหญิงเป็นพันธมิตรกับพ่อแม่ ความสัมพันธ์ของพ่อแม่ลูกแข็งแรง ฝ่ายชายก็จะมีอำนาจในครอบครัวน้อยลง จึงเกิดสมดุลอำนาจขึ้นถึงขั้นที่เด็กหญิงสามารถ ‘วีโต้’ การตัดสินใจต่างๆ ในครอบครัวได้เลย
เรื่องนี้ไม่เหมือนกับครอบครัวชาวจีนแบบดั้งเดิม 
หลายคนอาจรู้สึกว่าระบบของครอบครัวจีนนั้นแลดูกดขี่ผู้หญิง แต่ในอีกด้านหนึ่ง แม่สามีก็เคยเป็นภรรยาที่ถูกกดขี่มาก่อน #หญิงที่มาเป็นสมาชิกใหม่มีการทดสอบและขัดเกลาเพื่อให้ผู้หญิงที่มาใหม่ต้อง conform กับระบบความเชื่อของครอบครัวใหม่#แต่เมื่อเวลาผ่านไป เธอจะค่อยๆ ทวีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ จนเข้ามาแทนที่แม่สามีในที่สุด
มันคือการสร้างพันธมิตรกับพ่อแม่ (Parent-Child Alliances) น้อยมาก แตกต่างจากเด็กหญิงแอฟริกาที่โครงสร้างครอบครัวบีบให้พ่อแม่และเด็กหญิงต้องรักษาความเป็นพันธมิตรกันเอาไว้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

๒๓ มิถุนายน ครบวัฎฎะ

ดาวดารดาษดุจมณิเต็มผืนกำมะหยี่เหนือโพยมสีหมึก สีตลรัศมีที่ฉายเรื่อยอ่อนแสงหายไปหลังเมฆินทร์ เบื้องล่างสายนทีลัดเลาะแผ่นหิน ทุกโค้งคุ้งส...